คำพยากรณ์ดวงเมือง ๒๕๔๘

ทำเนียบพยากรณ์ศาสตร์

โดย อาจารย์ณัฐสุดา จันทนยิ่งยง

 

ดวงเมืองประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๘

( รัตนโกสินทร์ศก ๒๒๓-๒๒๔ )

หลังจากที่ประเทศไทยได้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายจาก “ สือนามิ ” มา เราๆท่านๆต่างก็ได้บทพิสูจน์ของความรัก ความสามัคคี และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันยามทุกข์ยาก ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน มูลนิธิต่างๆ นิสิตนักศึกษาซึ่งยังทำมาหากินไม่ได้ แต่เขาเหล่านั้นก็ได้แสดงน้ำใจด้วยการไปช่วยเก็บศพ แจกข้าวแจกน้ำ ไปเป็นล่าม ช่วยขนสัมภาระต่างๆ เก็บซากขยะตามชายหาด เรียกว่าทำทุกอย่างเท่าที่กำลังความสามารถจะพึงมี โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องให้ความช่วยเหลือด้วยการให้เงินทองเสมอไป ซึ่งภาพเหล่านั้นยังคงติดตาตรึงใจเราชาวไทยและชาวต่างชาติย่างไม่รู้ลืม แม้จนถึงทุกวันนี้ยังมีศพอีกจำนวนมากที่ยังไม่มีญาติมารับไปบำเพ็ญกุศล แต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดีและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยจนเป็นที่ชื่นชมของชาวต่างชาติ

สำหรับชาวบ้านที่ไร้ที่อยู่อาศัยก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยผ่านมูลนิธิบ้าง พระราชวงศ์องค์อื่นๆบ้าง รวมทั้งรัฐบาล ตำรวจ ทหาร เอกชน และสื่อมวลชนต่างๆ เข้ามาร่วมสมทบเรื่องการก่อสร้างบ้านพักอาศัยให้กับผู้ไร้ที่พึ่ง ที่ทำกิน เรียกได้ว่าเราคนไทยไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าร้อน ว่าหนาว ฝนตก น้ำแล้ง ไฟไหม้ มีเหตุการณ์หรือเรื่องเดือดร้อนที่ใด คนไทยก็ส่งน้ำใจและกำลังใจไปช่วยไม่ได้ขาด ยิ่งอาสาสมัครต่างๆด้วยแล้ว เขาเหล่านั้นต้องทำงานหนักและอดตาหลับขับตานอนท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผาและกลิ่นซากศพวันแล้ววันเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยผู้ประสบภัยอย่างน่าสรรเสริญน้ำใจจริงๆ

ปีใหม่ที่ผ่านมาจึงเป็นปีที่เงียบเหงาและเศร้าสร้อยทีสุดที่เคยมี หลายคนถามหาพยากรณ์ดวงเมืองที่เคยไปอยู่ในไดอารี่บ้าง นิตยสารอื่นๆบ้าง ผู้เขียนก็ได้แต่พูดว่าที่ทำนายไว้นั้นยังครอบคลุมอยู่ เนื่องจากวันปีใหม่ที่เราใช้กันจนแทบลืมภูมิปีอายุของดวงเมืองก็คือ เราใช้วันที่ ๑ มกราคมของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่สากล เวลาทำนายทั่วๆไปเราก็มักใช้วันที่ ๑ ของปีใหม่เป็นหลัก แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว ไม่ลืมใส่รัตนโกสินทร์ศกที่แสดงภูมิอายุของปีที่เป็นดวงชะตาของบ้านเมืองไว้ทุกครั้ง ดังนั้นสิ่งที่ทำนายไว้ของปีที่แล้วยังคงครอบคลุมความหมายไปจนถึงวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๘ ด้วย จึงถือว่าช่วงก่อนวันที่ ๒๑ เมษายนยังอยู่ในปีเก่าของภูมิอายุ ๒๒๓ ของดวงเมืองอยู่ และหลังจากนั้นจะเริ่มภูมิอายุใหม่ที่ ๒๒๔ แห่งรัตนโกสินทร์ศก เมื่อเป็นดังนี้ การมาเขียนเรื่องของดวงเมืองในเวลานี้จึงยังไม่สายเกินไป ด้วยผู้เขียนก็ป่วยไปพร้อมๆกับ “ สือนามิ ” มา ด้วยอาการ “ เส้นเสียงอักเสบ ” เปลี่ยนหมอเปลี่ยนยาหลายรอบ รวมทั้งกินยาสารพัดมาเกือบ ๓ เดือน หมอห้ามพูดในขณะที่อาชีพเราคือการพูด จำเป็นต้องหยุดใช้เสียงชั่วคราว มีคนถามว่าไม่ดูตัวเองหรือ ตอบได้ว่าไม่คิดว่าจะหนักหนาสาหัสปานนี้ บุญก็ทำ กรรมก็พยายามไม่สร้าง ทานก็ให้ แต่กรรมเก่าคงมากไปหน่อย อีกอย่างครูอาจารย์ท่านคงอยากให้เราพักผ่อนบ้าง ก็เลยมาเขียนเอามนยามที่ใกล้จะเปลี่ยนรัตนโกสินทร์ศก

โบราณว่า หากราหู (๘) ทับดวงเมือง “ โรคห่าจะลง ” ประเทศเราก็โดนไข้หวัดนกที่เกิดกับไก่กันเต็มๆ ไม่ยักเรียกไข้หวัดไก่ ทำเอาหวาดผวากันแทบทั้งประเทศ แม้ไม่โดนกับคน แต่ก็ส่งผลไปถึงคนผู้กินไก่ทั้งหลาย รัฐบาลต้องออกโรงประชาสัมพันธ์ให้คนหันมากินไก่ถึงขนาดที่ท่านนายกฯลงมือปรุงเอง ไม่อย่างงั้นไก่ของประเทศไทยก็ส่งออกไม่ได้ ขนาดคนไทยยังไม่กล้ากินแล้วต่างชาติที่ไหนเขาจะมาซื้อ กว่าจะผ่านเหตุการณ์วิกฤตินั้นมาได้ เราก็ฆ่าไก่ไปหลายแสนตัว ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะมีกรรมสนองเป็นเรื่อง “ สือนามิ ” หรือไม่ ? น่าแปลกที่ว่าพอไม่กล้ากินไก่ คนที่ไม่กินเนื้อ หรือไม่กินหมู ทำท่าเหมือนไม่มีอะไรจะกิน ทั้งที่จริงเรามีกุ้งหอยปูปลาอีกตั้งมากมาย แถมผักปลอดสารพิษ ผักกางมุ้งสดๆก็มีให้กิน แม้จะราคาแพงกว่าตั้งเท่าตัว หากคำนึงถึงความปลอดภัยแล้ว ก็คุ้มค่ากว่าแน่นอน

และจากปีใหม่จนถึงเดือนมีนาคม โอกาสจะเกิด ไฟใหม้ เครื่องบินตก จากผลพวงของราหู (๘) ในเรือนของดาวอังคาร (๓) ซึ่งเป็นเรือนของดวงเมือง และเป็นราศีธาตุไฟชั้นหนึ่งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน รวมทั้งดาวเสาร์ (๗) ที่เป็นกาลกิณีจรในราศีธาตุน้ำ คือเรือนของดาวพุธ ก็มีเรือโดยสารทางภาคใต้ล่มสังเวยชีวิตไปอีกไม่น้อย นั่นก็มีเหตุผลสมควรเกิดจากอิทธิพลของดวงดาวอยู่แล้ว ส่วนเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคมที่เป็นวันย้ายราศีของ “ ราหู(๘) ” มีเครื่องบินส่วนตัวตก รถยนต์พลิกคว่ำอยู่ข้างถนนจำนวนมากกว่าปกติ อิทธิพลนี้น่าจะยังคงส่งผลไปอีกนาน เนื่องจากราหู(๘) เดินราศีละ ๑ปีครึ่งประการหนึ่ง กับราหู(๘)จรไปทับราหู(๘) เดิมในเรือนพฤหัส (๕) ซึ่งเป็นพื้นชะตาดวงเมืองอีกประการหนึ่ง ที่สำคัญกว่านั้น ดาวพฤหัส (๕) ซึ่งเป็นดาวบริวารจรจะเปลี่ยนภูมิอายุเป็นกาลกิณีจร หลังจากวันที่ ๒๑ เมษายน๒๕๔๘ ไปแล้ว และเล็งกับราหูเดิมและจร หากเป็นคนก็ต้องระวังคดีความ และการแก้ปัญหาต่างๆ สำหรับบ้านเมืองปัญหาของคน ๖๐กว่าล้านคนก็ย่อมหนักหนาเป็นธรรมดา ส่วนดาวเสาร์ (๗) อันเป็นกาลกิณีจรในช่วงก่อน ๒๑ เมษายน ๒๕๔๘ เข้าอยู่ในเรือนของดาวพุธ (๔) อันเป็นดาวที่แสดงความหมายถึงภาคใต้ของประเทศไทยอีกประการหนึ่งนั้น จะเห็นได้ว่า เรื่องชายแดนสามจังหวัดยังคงเป็นปัญหาที่นับวันจะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่โตมากมายขึ้น หากมองว่าดาวพุธ(๔) เป็นดาวเพื่อนบ้าน ก็ยังหนีไม่พ้นปัญหาที่ว่านี้ เพราะมีดาวเสาร์ (๗) เป็นกาลกิณีทับอยู่ ข้อสำคัญดาวเสาร์(๗) นี้เป็นดาวธาตุไฟ ความร้อนระอุแบบไฟสุมขอน การระเบิด ไฟไหม้ สารเคมี ก็น่าจะระวังอุบัติภัยในเรื่องเหล่านี้เอาไว้บ้าง แม้หลังวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๘ จะไม่เป็นกาลกิณีจรแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในเรือนของดาวพุธ ไปจนปลายเดือนมิถุนายน การเตรียมพร้อม หรือการซักซ้อมป้องกันภัย หากทำได้ ก็ไม่น่าเสียหาย หากมีเหตุร้ายรุนแรงก็นอกจากช่วยตนเองได้ ยังสามารถช่วยคนอื่นได้อีกด้วย ทุกวันนี้เหมือนไม่มีกฎหมาย ใครอยากฆ่าใครก็แอบเอาระเบิดมาซ่อนไว้ กดรีโมทเดี๋ยวเดียวก็สำเร็จ เอาผิดกับใครก็ไม่ได้ ศพแล้วศพเล่าที่ถูกสังเวยจนคนดีๆไม่เป็นอันทำมาหากิน ไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกลัวถูกลูกหลง

หลังจากภูมิอายุของดวงเมืองเปลี่ยนไปเป็นอยู่ที่ภูมิของราหู (๘) ในวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๘ ไปแล้ว ดาวพฤหัส(๕)ก็กลายเป็นกาลกิณีจรไปในทันที ลองคิดกันเล่นๆว่า ดาวดีที่สุดกลายเป็นดาวที่เสียที่สุด คือนอกจากเป็นกาลกิณีแล้ว ดาวพฤหัส(๕) นี้ ยังอยู่ในเรือนของดาวพุธ (๔) ในราศีกันย์ และเป็นเรือนอริของดวงเมือง หากไม่เร่งแก้ไขเรื่องภาคใต้สามจังหวัดให้เด็ดขาด ปัญหาจะไปกันใหญ่ การแก้ไขจะยากยิ่งขึ้น และหากมองภาคใต้ในแง่ภัยธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้น ดังที่เคยทำนายไว้ในไดอารี่ของ

บ.แผ่นเหล็กวิลาส ปี ๒๕๔๗ ว่าจะเกิดแผ่นดินไหว ก็มีโอกาสจะเกิดได้อีก ซึ่งขนาดทำนายไว้ว่าจะโดนแค่หางๆยังหลายพันศพ ถ้าได้สัญญานเตือนภัยมาใช้เมื่อไหร่ คงทำให้สุขภาพจิตของผู้คนดีขึ้น และควรเร่งช่วยคนที่ประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติให้ลุล่วงไปโดยเร็ว จะได้ไม่ซ้ำซ้อนกับปัญหาอื่นๆก็จะติดตามมาทำให้แก้ยากยิ่งขึ้น และไม่รู้จบมากขึ้น

ดาวพฤหัส(๕) เป็นดาวคุณธรรม ดาวแห่งกฎหมาย รัฐบาล การศึกษา ครูอาจารย์ พระ และศาสนาฯ เมื่อจรมาเป็นกาลกิณี คุณธรรมก็เสื่อม กฎหมายก็อาจถูกใช้ไปในทางที่ผิด หรือไม่ศักดิ์สิทธิ์เสียแล้ว ภาครัฐก็อาจจะมีปัญหา การศึกษาก็เปลี่ยนแนวทางไป อารยธรรมและวัฒนธรรมใหม่ที่เข้ามาก็จะทำให้เด็กๆหลงเดินทางผิด ครูอาจารย์ก็ประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นแม่พิมพ์หรือพ่อพิมพ์ของชาติ พระและศาสนาก็เสื่อมถอยลง เพราะมีพระปลอมอาศัยมาแอบแฝง พระจริงๆนั้นพอมีเงินมากก็มีเรื่องสีกาเข้ามาพัวพัน ที่ผ่านมาให้เห็นก็มากต่อมาก และยังจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ พวกที่ทำมาหากินบนความทุกข์ของคนอื่น หรือพวกสิบแปดมงกุฎก็แอบแฝงมาในรูปของคนดี ยาบ้า ยาม้า หรือยาเสพติดอื่นๆก็เข้ามาอีกระลอก หลังจากดูว่าสงบลงไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่สงบจริงๆเสียที น่าเป็นห่วงดวงเมืองของเราที่ล่วงเลยมากึ่งพุทธศตวรรษแล้ว ที่เคยได้ยินว่ายุคของศาสนาพุทธจะค่อยๆเสื่อมลง และยุคต่อไปก็จะเป็นยุคของพระศรีอารย์นั้น ก็น่าจะใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

ดาวพฤหัส (๕) เมื่อจรอยู่ในเรือนอริ (ศัตรู) ซ้ำยังเป็นกาลกิณี สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ การสูญเสียบุคคลสำคัญระดับประเทศอย่างหนึ่ง การเมืองการปกครองหรือการใช้กฎหมายไม่ถูกต้องอย่างหนึ่ง หรือผู้ที่รักษากฎหมายทำผิดเสียเองอย่างหนึ่ง ราหู (๘) จร เป็นดาวธาตุลมทับดาวธาตุลมอีกประการหนึ่ง โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุใหญ่ๆ เช่น เครื่องบินตก หรือเกิดพายุที่รุนแรงได้

ส่วนปลายเดือนมิถุนายนมีดาวเสาร์ (๗) ย้ายไปเข้าเรือนของดาวจันทร์ (๒) ในราศีกรกฎ อันเป็นราศีธาตุน้ำนั้น ดาวสองดวงนี้เป็นดาวที่เมื่ออยู่ร่วมกันแล้วทำให้เกิดความทุกข์ในด้านจิตใจของคนทั่วๆไป เรียกว่าเสียสุขภาพจิตมีเรื่องวุ่นวายใจ ไม่สบายใจ แต่นี่เป็นดวงเมือง เรื่องที่จะเกิดก็เกิดแก่บ้านเมือง ในเรือนที่ดาวทั้งสอง (๒๗) สถิตย์อยู่เป็นเรือนพันธุ อันหมายถึง ญาติพี่น้อง ครอบครัว ชาติตระกูล ทรัพย์สมบัติ มรดก ดาวจันทร์ในสมัยก่อนเป็นยานพาหนะ เช่นเรือ สมัยปัจจุบันที่ถมห้วยหนองคลองบึงไปเป็นจำนวนมากก็กลายเป็นรถ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ ส่วนดาวเสาร์ (๗) เป็นดาวที่หมายถึงอิฐหินดินทราย สารเคมี การเกษตร วัตถุโบราณ บ้านที่ดิน ที่อยู่อาศัย ไฟ ความร้อน เครื่องยนต์ เมื่อดาวเสาร์ (๗) เป็นดาวบาปเคราะห์ ทับดาวศุภเคราะห์ (๒) แม้ไม่ได้จรเป็นกาลกิณี ก็น่าจะระมัดระวังเอาไว้บ้าง เช่นอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับความร้อน ไฟ สารเคมี แก๊ส รวมทั้งการเดินทางๆบกและทางน้ำ ซึ่งไม่ควรประมาท ท่าเรือที่เก่าแล้วก็ควรดูแลซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ โรงงานที่เก็บสินค้าหรือข้าวของไม่เป็นระเบียบ หรือโรงงานที่ชำรุดควรแก่การซ่อมแซม สายไฟที่เก่าเกินควร ตึกเก่าที่ทิ้งร้างตามสถานที่ต่างๆมีโอกาสถล่มลงมาทำความเดือดร้อน และแม้แต่รถไฟฟ้าใต้ดินบนดินก็ไม่ควรประมาทในการใช้งาน

ส่วนในความหมายของราศีธาตุน้ำนั้น ในที่ดอนก็เกิดขาดแคลนน้ำ ในที่ลุ่มก็ระวังหน้าน้ำมีน้ำหลาก ภูเขาถล่ม ถนนขาด เพื่อความไม่ประมาทก็ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะบ้านเมืองเป็นของเราทุกคน

เรื่องของเศรษฐกิจ จะดีเฉพาะกลุ่มที่มีทั้งฐานะและโอกาสอยู่แล้ว ส่วนพวกที่ปานกลางก็ต้องประคองตัวสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้ พอน้ำมันขึ้นสัญญาณของแพงก็ตามมา หากฟุ่มเฟือยมากอยากจะเป็นคนเคยรวยก็ไม่ว่ากัน ส่วนคนที่ยังสร้างฐานะไม่ได้ จะด้วยกำลังน้อยหรือขาดโอกาส หรือขาดเงินก็ให้ระวังการเป็นหนี้สินไว้บ้าง อย่าคิดแต่การกู้ได้เท่านั้น ต้องดูกำลังส่งด้วยว่ามีแค่ไหน “ อย่าเห็นช้างขี้แล้วอยากขี้ตามช้าง ” ก็แล้วกัน ในแง่ของดวงดาวมีราหู (๘) จรทับราหูเดิม (๘) และดาวอีกสองดวงคือ ดาวศุกร์ (๖) และดาวพุธ อันหมายถึงเรื่องต่างประเทศเศรษฐกิจการเงิน และรวมถึงปัญหาประเทศกับเพื่อนบ้าน ในขณะที่ดาวพฤหัส (๕)เป็นกาลกิณีจรเล็งอยู่ในราศีกันย์ เท่ากับเล็งดาวทั้งสามดวงนี้ด้วย

โดยสรุปแล้วปีนี้ยังไม่ใช่ปีที่ปลอดโปร่งอะไรนักหนา แค่ประคองเอาตัวรอดได้กับว่าดีมากแล้ว แม้พื้นฐานดวงเมืองจะมีดาวที่แสดงการเอาตัวรอดได้เก่งก็ตาม หากเราทุกคนอยู่ด้วยความไม่ประมาทอันเป็นคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว หนทางเดินข้างหน้าแม้มีขวากหนาม ก็คงสามารถหลบหลีกไปได้ หากประชาชนทั้งหลาย มีความพอใจในสิ่งที่มีอยู่ และปฎิบัติตนให้อยู่ในพระบรมราโชวาทแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามสมควรแก่อัตภาพได้เช่นกัน.